สีประจำแผนก | เพลงประจำแผนก | รายนามหัวหน้าแผนก | ประวัติวิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ
ปรัชญาการจัดการศึกษา
| รายนามผู้อำนวยการวิทยาเขต | หุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน | ประวัติผู้ก่อตั้งแผนก
ประกาศสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล
| ความเป็นมา

 
หุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน

อาจารย์อุดม จะโนภาษ
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด

    ในปัจจุบันนี้ถ้าจะพูดถึงหุ่นยนต์ ดูจะไม่-ใช้เรื่องแปลกประหลาดอะไรนัก เพราะเราได้เห็นหุ่นยนต์ในโทรทัศน์บ้าง และตามร้านของเด็กเล่นบ้าง หุ่นยนต์บางชนิดยังมีรูปร่างหน้าตาประหลาด และแปลงกายได้ เหาะเหินเดินอากาศได้ มีสีสันแปลกๆ มีกำลังมหาศาล สารพัดอย่าง แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องหุ่นยนต์เมื่อ ๔๐ ปีก่อนนี้ ก็คงมีแต่คนยิ้มๆ แล้วเฉยเสีย เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ยิ่งเป็นหุ่นยนต์ที่ตัวใหญ่เท่าคนด้วยแล้ว ยิ่งคล้ายกับความฝันมากกว่า

   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประชาชนชาวไทยได้ทรงทำความฝันให้เป็นความจริงแล้วเมื่อ ๔๐ ปีก่อน พระองค์ท่านได้พระราชทานเงินจำนวนสองหมื่นบาทให้วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ (ปัจจุบันคือ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ)สร้างหุ่นยนต์ให้สามารถเดินได้ พูดได้ ตอบปัญหาได้สำเร็จมาแล้ว ซึ่งนับว่าทรงมีส่วนส่งเสริมเทคโนโลยีทางอ้อมหุ่นยนต์ที่ได้สร้างขึ้นนี้ ได้สร้างประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ และเป็นเหตุให้นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯได้ศึกษาเรื่องของไอที ได้เป็นอย่างดี จนนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ซึ่งสำเร็จการศึกษาได้ไปทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติทั้งด้านโทรคมนาคม ด้านคอมพิวเตอร์ และด้านอุปกรณ์อัตโนมัติเป็นอันมาก และปัจจุบันแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์แผนกวิชาเทคนิคคอมพิวเตอร์ ของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ ได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นอันมากจนบัดนี้

กำเนิดหุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน
   เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จฯ เปิดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ซึ่งจัดขึ้นที่โรงเรียนสวนกุหลาบ เป็นประจำทุกปีเพื่อให้สถานศึกษา นักเรียน และ นักศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกันแสดงผลงานกิจกรรมดังกล่าว นอกจากจะเป็นโอกาสแสดงให้เห็นถึงความสามารถของนักเรียน นักศึกษาแล้วยังเป็นการสร้างความสามัคคีให้กับนักเรียน นักศึกษาให้รู้จักทำงานร่วมกันด้วย

   เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปิดงานแล้วได้ทรงพระราชดำเนินทอดพระเนตรกิจกรรมของสถานศึกษาต่างๆที่ร่วมแสดงในงาน จนถึงที่จัดแสดงของวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ได้ทอดพระเนตรเห็นรถยนต์ขนาดใหญ่บังคับให้วิ่งได้ด้วยวิทยุวิ่งอยู่ในสนามอย่างรวดเร็วพอสมควร ทรงพอพระราชหฤทัยมาก

   อาจารย์สนั่น สุมิตร ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ในขณะนั้น(ต่อมาท่านได้เป็น อธิบดีกรมอาชีวศึกษา, อธิบดีกรมสามัญศึกษา และปลัดกระทรวงศึกษาธิการตามลำดับ) ได้เล่าให้ฟังว่า “เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทอดพระเนตรรถบังคับด้วยวิทยุคันดังกล่าวทรงพอพระราชหฤทัยมาก ทรงหันมาทางผม ซึ่งเดินตามเสด็จพระราชดำเนินกราบบังคมทูลถวายรายงานอยู่ใกล้ๆเพราะตอนนั้นเป็นผมเป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ พระองค์รับสั่งถามว่าทำหุ่นยนต์เดินได้ ได้ไหม! ผมกราบบังคมทูลทันทีว่า ได้พะย่ะค่ะ รับสั่งต่อไปว่าจะต้องใช้เงินเท่าใด ผมไม่มีเวลาจะคิดคำนวณอะไร แต่จะโดยบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบตัวเลขสองหมื่นเกิดแวบขึ้นมาในหัว จึงกราบบังคมทูลว่า จะต้องใช้เงินประมาณสองหมื่นบาทพะย่ะค่ะพระองค์ท่านทรงพระสรวลและรับสั่งว่าจะให้เขาจัดเงินให้ เมื่อผมปรึกษากันกับ อาจารย์สวัสดิ์หงษ์พร้อมญาติ (หัวหน้าแผนกช่างวิทยุ วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ) ที่เป็นผู้สร้างรถยนต์ขนาดใหญ่บังคับด้วยวิทยุคันนั้น)ในเวลาต่อมาก็ได้คำรับรองว่าเงินจำนวนดังกล่าวสามารถสร้างหุ่นยนต์ได้ตามพระราชประสงค์”

   อาจารย์สนั่น สุมิตร อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้เล่าต่อไปว่าจากนั้นไม่นานในปีเดียวกันนั้นเอง ในงานราชอุทยานสโมสร เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอาจารย์สนั่น สุมิตร ได้เข้าไปเฝ้าฯ ณ พระราชวังดุสิต ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้เป็นที่ประทับ ในระยะที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน อยู่ในระหว่างการปรับปรุงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินปฏิสันถารกับคณะข้าราชการ และบุคคลต่างๆที่ยืนเฝ้าฯ รับเสด็จฯ โดยลำดับมา เมื่อพระองค์ท่านเสด็จมาถึงผม ได้มีพระราชกระแสรับสั่งว่า“ได้สั่งให้เขาโอนเงินมาให้แล้วนะ ทำเสร็จเมื่อใดเอามาให้ดูด้วย” แสดงว่าพระองค์ท่านไม่ทรงลืมเรื่องหุ่นยนต์

เริ่มสร้างหุ่น “หุ่นยนต์คุณหมอ”
   หลังจากที่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ได้รับเงินพระราชทาน จำนวน๒๐,๐๐๐.- บาทแล้ว อาจารย์สนั่น สุมิตร ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ก็ได้มอบให้อาจารย์สวัสดิ์หงษ์พร้อมญาติ หัวหน้าแผนกช่างวิทยุ เป็นผู้ดำเนินการสร้างหุ่นยนต์ตามที่วางแผนไว้ทันทีโดยมีอาจารย์และนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ช่วยทำอยู่ด้วย โดยมี อาจารย์สวัสดิ์หงษ์พร้อมญาติ เป็นแม่งาน

   การทำหุ่นยนต์นั้น ได้ตัดตัวหุ่นซึ่งทำด้วยอลูมิเนียมแผ่นด้วยเครื่องตัดโลหะและเลื่อยสายพาน เพราะขณะนั้นแผนกช่างวิทยุ มีเลื่อยสายพาน และเครื่องกลึง ตลอดจนอุปกรณ์อย่างพร้อมเพรียงในการสร้างหุ่นยนต์อยู่แล้วการกลึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะต่อในตัวหุ่นยนต์จึงทำที่แผนกช่างวิทยุ วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯทั้งหมด เพื่อให้หุ่นเดินได้ จึงใช้มอเตอร์ขนาดเล็กใส่ที่เท้า และใช้แบตเตอรี่มอเตอร์ไซด์เป็นตัวต่อที่ทั้ง๒ เท้า มีมอเตอร์เท้าละตัว การที่ใส่มอเตอร์และแบตเตอรี่ที่เท้าเพื่อให้มีน้ำหนักที่ด้านล่างทำให้หุ่นทรงตัวได้ดี ไม่ล้มง่าย ส่วนที่กลางตัวหุ่น เป็นเครื่องรับส่งวิทยุ ๒ ทางคือทั้งส่งไป และรับสัญญาณกลับ คนที่ควบคุมหุ่นอยู่ไกลๆ จะพูดเข้าเครื่องส่ง แล้วไปเข้าเครื่องรับที่ตัวหุ่นเป็นเสียงออกมาที่ลำโพง ส่วนคนที่พูดกับหุ่นเสียงก็จะไปเข้าไมโครโฟนที่หน้าอกหุ่นแล้วขยายให้แรงขึ้นส่งไปบังคับเครื่องส่ง เพื่อส่งออกอากาศไปเข้าเครื่องรับที่คนบังคับหุ่นคนบังคับหุ่นจะได้ยินคำถาม และตอบกลับมาด้วยเครื่องส่งที่อยู่ที่คนบังคับหุ่น ในระหว่างที่พูดโต้ตอบกันนี้จะมีวงจรจับคลื่นแยกความถี่ที่ต้องการไปเข้าที่ตาของหุ่น ซึ่งทำด้วยหลอดตาแมว (MAGICEYE) ตาหุ่นก็จะกระพริบได้ ส่วนมือหุ่นก็มีมอเตอร์อีก ๒ ชุด ที่จะทำให้ยกมือด้านซ้ายหรือด้านขวาได้ มอเตอร์ ๒ ชุดนี้อยู่ที่กลางตัวหุ่น

   การบังคับ ใช้บังคับด้วยเครื่องส่งวิทยุความถี่สูง และ กำลังสูงเพื่อให้บังคับได้ไกล เครื่องส่งสมัยนั้นยังใช้หลอดสูญญากาศ โดย อาจารย์สวัสดิ์หงษ์พร้อมญาติ ได้ใช้หลอด ๘๐๗ เป็นหลอดขยายกำลัง ซึ่งกำลังออกอากาศ ๑๐๐ วัตต์ จึงสามารถควบคุมหุ่นได้ไกลมากทีเดียว

   ประมาณเกือบ ๓ เดือน การสร้างหุ่นยนต์เท่าตัวคนก็แล้วเสร็จ ทดลองดูในวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯให้เดินไปตามถนนในวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ปรากฏว่าเดินได้ไกลมาก ยกมือได้ ไหว้ได้และพูดโต้ตอบได้ แถมร้องเพลงได้ด้วย เพลงนั้นใช้เปิดด้วยเทปที่คนควบคุมเปิด ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงสร้างสรรค์เช่น เพลง “ศีลห้า” หรือเพลงนักเรียน เพลงลูกเสือ เพลงกาชาด เป็นต้น ส่วนศีรษะทำด้วยปูนปาสเตอร์แล้วระบายสีเหมือนหน้าคนจริงโดยได้ทำเป็นหุ่นหน้าตาเป็นคนใจดี และมีมือเหมือนหุ่นโชว์เสื้อผ้าผู้ชายทั่วๆ ไปส่วนลำตัว แขน ขา เท้า เป็นอลูมิเนียม ได้ทดลองกันหลายครั้ง อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติจึงได้รายงานให้ผู้อำนวยการ อาจารย์สนั่น สุมิตร ทราบ และท่านผู้อำนวยการ ได้นำความกราบบังคมทูลพระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าหุ่นยนต์สร้างเสร็จแล้ว

นำหุ่นยนต์เข้าเฝ้าฯ
   เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทราบว่าหุ่นยนต์สร้างเสร็จแล้วได้มีพระราชกระแสรับสั่ง กำหนดวันให้วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ นำหุ่นยนต์เข้าถวายให้ทอดพระเนตรอาจารย์สนั่น สุมิตร ก็ได้นำหุ่นยนต์ พร้อมด้วยอาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ อาจารย์และนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯเข้าเฝ้าฯ และได้บังคับหุ่นยนต์ให้ทอดพระเนตรตามพระราชประสงค์ ปรากฏว่าเป็นที่พอพระราชหฤทัยอย่างยิ่งและได้ทรงพระเมตตาพระราชทานแนวพระราชดำริ ในการปรับปรุงแก้ไขให้หุ่นยนต์มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นอีกทั้งได้มีพระราชทานรับส่งให้ใส่เสื้อผ้าหุ่นยนต์เสียด้วย โดยให้ใส่เสื้อกาวน์เป็นหุ่นยนต์คุณหมอ ที่หน้าอกติดกาชาดสีแดง

การปรับปรุงหุ่นยนต์คุณหมอตามแนวพระราชดำริ
   ผู้อำนวยการ อาจารย์สนั่น สุมิตร และอาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติดีใจมาก ได้ถวายบังคมลากลับมาปรับปรุงหุ่นยนต์ตามแนวพระราชดำริโดยด่วน เช่น เสริมโครงสร้างให้แข็งแรงขึ้นจัดโปรแกรมการเดิน และการยกมือให้ดีขึ้น โดยใช้โปรแกรมจากเสียงต่างๆ ซึ่งพอจะเทียบได้กับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันปรับปรุงการเคลื่อนไหวให้มั่นคง แข็งแรงและว่องไวพอสมควร ตลอดจนปรับปรุงเรื่องเสียงให้ดีขึ้นส่วนเครื่องแต่งกายนั้น ก็จัดแต่งแบบคุณหมอเป็นชุดขาว สวมเสื้อกาวน์ยาวคลุมตัวหุ่นและมีเครื่องฟังของคุณหมอที่ใช้สำหรับตรวจคนไข้ด้วย ทุกอย่างได้จัดตามแนวพระราชดำริที่ได้รับพระราชทานมา

ความสามารถของหุ่นยนต์คุณหมอ
   ๑. เดินได้
   ๒. ยกมือได้
   ๓. ไหว้ได้
   ๔. พูดได้
   ๕. ฟังได้
   ๖. คิดเลขได้
   ๗. ตอบปัญหาได้
   ๘. วินัจฉัยโรคได้ (ถ้าหมอควบคุม)
   ๙. เป็นจิตแพทย์ได้
   ๑๐. ประชาสัมพันธ์ได้
   ๑๑. เป็นครูได้
   ๑๒. เป็นเครื่องทดลองได้

การแสดงหุ่นยนต์คุณหมอในงานกาชาด
   วันเปิดงานกาชาด ที่สถานเสาวภา หุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน ก็สวมเสื้อกาวน์เดินพูดเชิญชาวประชาชนที่มาชมงานให้บริจาคช่วยกาชาดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปเป็นประธานเปิดงาน ได้ทอดพระเนตรหุ่นยนต์คุณหมอจากพลับพลาที่ประทับ ด้วยความพอพระราชหฤทัย ปรากฏว่า ไม่ว่าหุ่นยนต์คุณหมอ พระราชทานเดินไปทางไหน คนก็เดินตามเป็นแถว เพราะเป็นสิ่งแปลก ไม่เคยปรากฏหุ่นยนต์ขนาดเท่าคนเดินได้มาก่อนในประเทศไทยอีกทั้งยังสร้างด้วยฝีมือคนไทยด้วย

   หุ่นยนต์คุณหมอพระราชทานนี้ ได้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้งานกาชาดเป็นอย่างมากคนมางานกาชาด ก็เพราะอยากมาดูหุ่นยนต์คุณหมอเดินได้ พูดได้ ถ้าจะเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบันก็เหมือนกับการที่คนอยากดูเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลกในงาน บีโอไอ ๙๕ ที่จังหวัดชลบุรี หรืออยากมาดูหินจากดวงจันทร์ในงาน เวิร์ลเทค ที่จังหวัดนครราชสีมาทำนองนั้น เพียงแต่เวลาผิดกันสี่สิบกว่าปี แสดงให้เห็นพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงคิดการประชาสัมพันธ์ขึ้นเมื่อสี่สิบกว่าปีมาแล้วอย่างได้ผลดียิ่ง

   ในงานกาชาดนั้น นอกจากหุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน จะได้ยกมือไหว้เชิญชวนผู้คนให้ช่วยกาชาดแล้วคนหนุ่มสาว นักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็สนุกสนานกับหุ่นยนต์คุณหมอพระราชทานนี้มากได้มาบอกให้หุ่นยนต์เดิน หุ่นยกมือ หุ่นกระพริบตา หุ่นคิดเลข หุ่นตอบปัญหา ถามไปถามมาหุ่นก็ถามปัญหาผู้ที่มาชมด้วยโดยผู้ชมผู้หนึ่งถามหุ่นว่า ใครให้สร้างหุ่นคุณหมอขึ้นมา หุ่นกลับตอบว่า ลองทายซิใครเอ่ย

  ผู้ชมตอบว่า ไม่ทราบ ใครจะไปทราบ
  คุณหมอหุ่นยนต์ก็ตอบว่า ใบ้ให้เอาไหม จะได้ทายกัน
  ผู้ชมตอบว่า เอ้าลองใบ้ซิ
  หุ่นก็ใบให้ ตอนนั้นเป็นตอนที่คนชอบพูดเป็นกลอน คุณหมอหุ่นยนต์จึงใบ้เป็นกลอนว่า ฟังให้ดีนะ ท่านผู้ที่ให้สร้างนั้น

   บารมีพระมากพ้น   รำพัน
พระพิทักษ์ยุติธรรม์   ถ่องแท้
บริสุทธิ์ดุจดวงตะวัน   ส่องโลก ไซร้แฮ
ทวยราษฎร์รักบาทแม้   ยิ่งด้วยปิตุรงค์

พอใบ้เสร็จ ผู้ชมก็ตอบดังๆ พร้อมๆ กันทันทีว่า
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
เหตุการณ์นี้ทำเอาผู้อำนวยการ อาจารย์สนั่น สุมิตร และ อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ น้ำตาซึมไปด้วยความตื้นตันใจ

งานกาชาดมีหลายวัน คนมาเล่นกับหุ่นก็มีจำนวนมาก มีตั้งแต่ให้คิดเลข ถามปัญหา และอื่นๆ เวลาว่าง หุ่นยนต์คุณหมอก็ชวนให้ช่วยกาชาดบ้าง สอนให้คนรักษาสุขภาพบ้าง สอนให้คนรักษาความสะอาดบ้าง เช่น  อาหิวาต์กำเริบ ล้างมือก่อนเปิบ ด้วยน้ำประปา ผักดิบผักสด งดเสียดีกว่า จะใช้น้ำท่า จงต้มเสียก่อน

คนที่มาเล่นกับหุ่นยนต์คุณหมอนั้น บางคนก็มาเล่นด้วยความสนุกสนาน ถามเรื่อยเปื่อยไปโดยเห็นคุณหมอเป็นหมอดู เพราะคุณหมอตรวจโรคไม่เป็น แต่ที่จริงนั้น ถ้าหากจะให้หุ่นยนต์คุณหมอวินิจฉัยโรคภัยไข้เจ็บจริงๆ ก็คงจะได้ แต่คนที่บังคับหุ่นยนต์คุณหมอต้องเป็นหมอ อย่างไรก็ตามแม้ผู้ชมจะถามในเชิงยั่วเย้ากระเซ้าแหย่ หุ่นยนต์คุณหมอก็หาโกรธเคืองไม่ กลับถามผู้ที่มาถามว่าเกิดวันอะไร เดือนอะไร ปีอะไร แล้วคุณหมอจะตรวจให้ ผู้ที่มาชมก็บอกไป หุ่นยนต์คุณหมอก็ทายจริงๆ เหมือนกัน เพราะคนที่บังคับหุ่นยนต์ในขณะนั้นมีความรู้ทางโหราศาสตร์ จึงตอบไปว่า

   โสราทับโสระร้าย   ราศีมีน
ลัคนาเกาะฉินทฤกษ์   ร้อน
พฤหัสบสิบเอ็ดกิน   กอบโชค ชัยนา
คงจะมีผู้ซ้อน   ช่วยพ้นภัยเกษม

    แล้วก็ทายให้ฟังว่า คุณกำลังมีเคราะห์ร้าย แต่อีกไม่ช้าจะมีคนช่วย ไม่มีอันตรายหรอก ผู้ชมก็ถามต่อและได้รับคำแนะนำจากหุ่นยนต์คุณหมอ สักพักหนึ่งก็กลับไปด้วยความสบายใจ ปรากฏว่ามีคนถามต่ออีกมากเรื่อง หมอดูกับหุ่นยนต์คุณหมอจึงโด่งดังพอสมควร ถึงกับครูบางคนมาถามว่า เป็นครูจะเจริญไหม ทำอย่างไรจึงจะสอนลูกศิษย์ให้ได้ดี



หุ่นยนต์คุณหมอก็ตอบว่า

การอบรมบ่มนิสัยให้ศิษย์นั้น

แม้เพียงวันละนาทียังมีถม

ศิษย์จะดีมีชื่อเสียงหรือเล่นจม

อาจเป็นเพราะอบรมหนึ่งนาที


  ที่จริงคำกลอนนี้ อาจารย์หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล แต่งไว้ แต่คนที่ควบคุมหุ่นอยู่จำได้ จึงเอามาตอบ ปรากฏว่าเป็นที่ชื่นชอบสนุกสนานของผู้ที่เข้าชม เพราะคนเหล่านี้อยู่ในวงการศึกษาทั้งสิ้น คุณครูผู้นั้นพูดกับหุ่นยนต์อยู่พักใหญ่ก็ยิ้มกลับไป มีความสุขอย่างยิ่ง

  สิ่งหนึ่งที่น่ายินดี คือ คุณแม่ท่านหนึ่งพาลูกไปเที่ยวงานกาชาด ไปดูหุ่นยนต์เห็นหุ่นยนต์คุณหมอเดินชักชวนคนให้ช่วยกาชาดก็พูดกับลูกว่า ชอบหุ่นยนต์คุณหมอไหม

  ลูกชายตอบแม่ว่า ชอบครับ หุ่นยนต์คุณหมอยังรู้จักช่วยกาชาดแล้วทำไมคนจึงไม่ช่วยกาชาดครับ
  แม่ถามกลับไปว่า แล้วลูกจะช่วยกาชาดไหม

  ไม่มีใครทราบว่าเด็กคนนั้นโตขึ้นจะเป็นอะไร แต่ที่แน่ ๆ เด็กคนนั้นนำเงิน๑ บาท ไปช่วยกาชาด ที่ซุ้มกาชาดใกล้ๆ คุณหมอนั่นเอง ซึ่งแสดงว่าพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้บรรลุผลแล้วทุกประการ

ผลของการสร้างหุ่นยนต์

  การที่ได้นำหุ่นยนต์คุณหมอไปแสดงที่งานกาชาดนั้นทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆขึ้นมาหลายอย่าง จากคำถามของผู้ที่มาพูดกับหุ่นยนต์คุณหมอ ทำให้เห็นว่า คนเรายังขาดที่พึ่งอีกมากถ้ามีที่คุยกับหุ่นยนต์คุณหมอตัวต่อตัว คงช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เป็นอย่างมาก หุ่นยนต์คุณหมอคงจะช่วยให้ความรู้หรือให้คำแนะนำที่ดีๆได้มากมาย โดยที่คนไข้ไม่ต้องอายหมอ และยังสามารถที่จะช่วยเป็นอุปกรณ์ในการเรียนการสอนด้าน“ไอที” ได้เป็นอย่างดี เพราะหุ่นยนต์นั้นมีเครื่องส่ง และเครื่องรับ ส่งได้ ๒ ทางคือส่งไปและส่งกลับ ส่งเป็นเสียงพูดก็ได้ ส่งเป็นเสียงเพลงก็ได้ หรือจะส่งเป็นรหัสมาควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์คุณหมอก็ได้ดั้งนั้นหุ่นยนต์จึงประกอบด้วย “ไอที” (IT) หรืออินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (InformationTechnology) อย่างสมบูรณ์ คือมี

  ๑. เทคโนโลยีทางคมนาคม คือเครื่องรับ และเครื่องส่งสัญญาณไปที่ไกลๆ
  ๒. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คือการที่ให้คิดได้ และทำงานซ้ำ ๆ หลายครั้งได้
  ๓. เทคโนโลยีทางเครื่องอัตโนมัติ คือการเดิน การยกมือ การพูด และอื่นๆ

  นั่นแสดงว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของชาวไทยพระองค์นี้ ทรงมีพระปรีชาญาณที่ล้ำลึกทรงมีพระอัจฉริยภาพด้าน “ไอที” อย่างยอดเยี่ยมมานานแล้ว

  นอกจากนั้น การที่พระองค์ท่านโปรด เกล้าฯ ให้วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯที่เป็นสถานศึกษาทำหุ่นยนต์คุณหมอนั้น พระองค์ท่านได้ทรงตระหนักในพระราชหฤทัยเป็นอย่างดีว่าประชาชนจะมีความร่มเย็นเป็นสุขได้ หรือประเทศชาติจะมีความมั่นคงได้ จะต้องมีการพัฒนาด้านสังคมพัฒนาด้านอาชีพให้ราษฎร สามารถเลี้ยงตัวได้ มีความรู้ความสามารถที่จะเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ดังนั้นการพัฒนาด้านอาชีวศึกษาของชาติจึงเป็นของสำคัญ เป็นเรื่องจำเป็นอย่างรีบด่วนซึ่งจะต้องเริ่มจากการพัฒนาครูผู้สอนวิชาชีพเสียก่อน เมื่อครูมีความสามารถ และมีความคิดสร้างสรรค์แล้วก็จะทำให้ลูกศิษย์ดีขึ้นอย่างแน่นอน

  การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯสร้างหุ่นยนต์คุณหมอพระราชทานขึ้นมานี้ เป็นพระราโชบายอันยอดเยี่ยมที่จะพัฒนาครูพัฒนากับนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชาชนคนดู และคุณหมอให้มีกำลังใจ ให้ได้แสดงความสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้รู้จักร่วมมือกันทำงาน เป็นกลุ่มเป็นคณะ ทำให้เกิดความ “รู้รักสามัคคี” ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของบุคลากรซึ่งจำเป็นต้องพัฒนาและเสริมสร้างให้บุคคลรุ่นต่อไป ให้เป็นสมบัติหรือทรัพยากรที่มีค่าของชาติต่อไป

  ความสำเร็จในการสร้างหุ่นยนต์คุณหมอนี้ ทำให้ความศรัทธาของประชาชนที่มีการต่อการอาชีวศึกษาของชาติสูงขึ้น ได้มีโรงเรียนอาชีวศึกษาและวิทยาลัยอาชีวศึกษา มากขึ้นและมีคุณภาพดีขึ้นแม่แต่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ เอง ก็ยกฐานะขึ้นเป็น สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯให้การศึกษาระดับสูงถึงขั้นปริญญาบัณฑิต และมีแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์และ แผนกวิชาเทคนิคคอมพิวเตอร์ ที่แข็งแกร่ง นักศึกษาที่จบไปจากวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯได้ไปทำงานสถานที่ราชการ และเอกชนต่าง ๆ ในด้านอิเล็กทรอนิกส์โทรคมนาคม และคอมพิวเตอร์เป็นผลสำเร็จอย่างดียิ่งเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติเป็นอย่างมากทั้งหมดนี้ก็ด้วย พระปรีชาญาณและพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้สถิตอยู่ในดวงใจของพสกนิกรไทย ทั้งมวลอย่างแน่นอน

จาก บทความ “เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัวด้านการสื่อสาร”
อาจารย์อุดม จะโนภาษ
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด


 
web ee : ee#35 ee#43 ee#44 ee#45 ee#46 ee#47 ee#48
©
www.eemuang-kaow.com Allright reserved.
 

Kittipan Sribuaiam