|
ความเป็นมาของช่างวิทยุ,
อีเล็คโทรนิคส์, อิเล็กทรอนิกส์ |
ข้อมูล
: อาจารย์อุดม จะโนภาษ (EE#01)
อาจารย์จเร สาธุเสน (EE#16)
เรียบเรียง / พิมพ์ : อาจารย์พงระภี ศรีสวัสดิ์ (EE#37)
จากบันทึกความทรงจำ
ของ อาจารย์อุดม จะโนภาษ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ในฐานะศิษย์เก่าแผนกช่างวิทยุ
รุ่นที่ 1 และ อดีตอาจารย์เก่าของแผนกวิชาช่างวิทยุ
ได้ให้รายละเอียด และประวัติความเป็นมาของช่างวิทยุ
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแผนกช่างวิทยุ และแผนกช่างวิทยุในยุคแรกๆ
อีกทั้งรายละเอียดและข้อมูลของ อาจารย์จเร สาธุเสน ตำแหน่ง
อาจารย์ 3 ระดับ 8 ซึ่งเป็นศิษย์เก่าอีเล็คโทรนิคส์รุ่น 16 โดยรวบรวมข้อมูลของแผนกวิชาช่างอีเล็คโทรนิคส์
ตั้งแต่ยุคกลาง จึงถึง ยุคปัจจุบัน ซึ่งมีสาระสำคัญตามลำดับ ดังนี้
แผนกช่างวิทยุ (ปัจจุบันชื่อ แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์)
เริ่มก่อตั้งเมื่อ ปี พ.ศ. 2495 โดยฝากเรียนที่ โรงเรียนช่างกลปทุมวัน เพราะขณะนั้นตึกยังสร้างไม่เสร็จดี
โดยอาศัยเรียนอยู่ตึกชั้นล่างเพียงห้องเดียว ริมประตูทางเข้าโรงเรียน เครื่องไม้เครื่องมือยังไม่ค่อยมี
เพราะงบประมาณยังไม่ได้ และของที่ส่งมาช่วยเหลือโดยองค์การส่งเสริมความมั่นคงร่วมกัน
(M.S.A. : Mutual Security Agency) ก็ยังมาไม่ถึง อาจารย์ที่สอนก็ยังมีเพียง 2 ท่าน
คือ อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ และ อาจารย์พิชิต โภควัฒน์ โดยมีผู้ช่วยสอน
LAB อีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์บัญญัติ กลัณฑก ใน ขั้นต้นห้อง LAB ก็อาศัยของเครื่องมือของโรงเรียนช่างกลปทุมวัน
เป็นบางส่วน ต่อมาก็ได้งบประมาณที่พอจะจัดซื้อได้บ้าง โดยในขณะนั้นมีนักเรียนเพียง
28 คน เท่านั้น
เนื่องจากการขาดแคลนอาจารย์ผู้สอน อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ หัวหน้าแผนกช่างวิทยุ
จึงได้พยายามเชื้อเชิญเพื่อน ๆ ที่มีความรู้ความสามารถในทางวิทยุ จากสถานที่ราชการ
และร้านค้ามาช่วยในการสอนทฤษฎี โดยมีผู้เอื้อเฟื้อมาสอนให้หลายท่าน ทางกระทรวงฯ
และ M.S.A. ก็ได้จัดส่งอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญมาสอนภาษาอังกฤษให้เป็นพิเศษ คือ Dr.
IMAN ผู้มีอุปการคุณแก่เทคนิคมาก และนอกจากนี้ยังมี อาจารย์พิชัย อังจันทร์เพ็ญ,
อาจารย์รัตนา สุทธรัตน์, พ.ต.การุณ เก่งระดมยิง (จากจเรทหารสื่อสาร), ร.ต. สมชัย
ศิลปบรรเลง ร.น. (จากกรมอู่ทหารเรือ) อาจารย์จรัส สันตสิริ (จากกรมประชาสัมพันธ์)
อาจารย์ระวี ภาวิไล (จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) อาจารย์วิชัย รัชตนาวิน ต่อมาบางท่านติดราชการ
แต่ก็พยายามหาเพื่อนฝูงมาสอนแทน อาจารย์พิเศษของแผนกฯ ในปีต่อๆ มาจึงได้เปลี่ยนไปบ้างตามสมควร
ในปี พ.ศ. 2495 นี้เอง ทางกระทรวงฯ ได้ของอาจารย์หัวหน้าแผนกฯ ไปร่วมทำงานกับผู้เชี่ยวชาญของวังจันทรเกษม
เพื่อจะได้ส่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้กับวิทยาลัยเทคนิค ในระยะนี้ก็ทำให้แผนกช่างวิทยุอ่อนกำลังลงบ้าง
เพราะหัวหน้าแผนกช่างวิทยุได้เจรจาของความช่วยเหลือ และได้สั่งเครื่องมือให้กับวิทยาลัยเทคนิคอย่างมากมาย
พ.ศ. 2495 ได้ทำการสร้างตึกอำนวยการของวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ
ที่ทุ่งมหาเมฆ โดยแผนกวิทยุได้สถานที่บริเวณตึกอำนวยการ ทางปีกซ้าย และ ชั้นบนเป็นห้องสอนทฤษฎี
ซึ่งในปีนี้ได้งบประมาณมาบ้าง พอที่จะซื้อเครื่องมือได้อีก จึงทำให้การเรียนดีขึ้นเป็นอย่างมาก
และผลก็คือ นักเรียนรุ่นแรก ในปี พ.ศ. 2498 ได้ไปต่างประเทศหลายคน บางคนก็เป็นหัวหน้างานใหญ่โตกันไปหมด
นักเรียนรุ่นแรกของแผนกวิทยุ ไม่เพียงพอกับความต้องการของประเทศ ทุกๆ คนมีงานทำทันทีที่จบการศึกษาไป
ซึ่งนับว่าเป็นผลสำเร็จอย่างยิ่งของกระทรวงศึกษาธิการ งานสำคัญที่ได้ทำในปี พ.ศ.
2496 ก็คือ ได้เปิดทดลองการกระจายเสียงขึ้นที่วิทยาลัยเทคนิคฯ เป็นครั้งแรก ส่งจากเครื่องส่งขนาด
250 วัตต์ ซึ่งสร้างขึ้นโดยนักศึกษารุ่นแรก ในความควบคุมของหัวหน้าแผนกวิทยุ ทางกระทรวงศึกษาธิการเห็นความสำคัญในการส่งกระจายเสียง
จึงได้ติดต่อกับผู้อำนวยการ ขอให้ทางวิทยาลัยเทคนิคฯ ตอบตกลงเรื่องการส่งกระจายเสียง
ในนามของกระทรวงศึกษาธิการ โดยทางวิทยาลัย เริ่มส่งกระจายเสียง ในวันที่ 1 มกราคม
พ.ศ. 2497 เวลา 15.32 น.
พ.ศ. 2496 แผนกวิทยุ เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพราะอุปกรณ์จากต่างประเทศที่ส่งมาช่วยเหลือมาถึง และได้งบประมาณเพื่อสร้างเครื่องส่ง
2 กิโลวัตต์ อีกจำนวน 2 เครื่อง ซึ่งในสมัยนั้นการสร้างเครื่องส่งขนาด
2 กิโลวัตต์นับว่าใหญ่มาก เพราะเครื่องส่งขนาดใหญ่ยังไม่ค่อยมี
และไม่ได้ส่งกระจายเสียงกันขนาดหนักแบบทุกวันนี้ เครื่องส่ง
2 เครื่องนี้ ได้สำเร็จเรียบร้อยในปีนี้เอง ตามหลักสูตรของแผนกวิทยุจะไม่ได้บรรจุวิชาภาษาอังกฤษ
และ วิชาคณิตศาสตร์ อยู่ในแผนการเรียน แต่เวลาเรียนจริงๆ
จะมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญมาสอนเป็นพิเศษ เช่น วิชา Calculus
สอนโดย อาจารย์สนั่น สุมิตร ผู้อำนวยการฯ และนอกจากนี้ยังมีอาจารย์อีกหลาย
ๆ ท่าน เช่น ดร.เลื่อน บิณฑสัณฑ์, น.อ.สมชัย ศิลปบรรเลง และ
อาจารย์วลัยอาจ สมะลาภา ในปีนี้ ทางแผนกฯ มีอาจารย์ประจำ
5 ท่าน คือ อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ (หัวหน้าแผนกฯ),
อาจารย์พิชิต โภควัฒน์, อาจารย์อุดม จะโนภาษ, อาจารย์ภิญโญ
แก้วประสิทธิ์ และ อาจารย์หิรัญ มีชูทรัพย์ และต่อมา อาจารย์ปรีชา
ทรัพย์สมบูรณ์ ได้ย้ายมาจากช่างกลปทุมวัน ตอนต้นปี พ.ศ. 2497
ซึ่งทำให้ผลการศึกษาของนักศึกษาในปีนี้สูงมากทีเดียว นักศึกษาจบออกไปได้งานทันที
และรุ่นนี้ได้ไปต่างประเทศมาก ในปี พ.ศ. 2496 ต่อ ปี พ.ศ.
2497 นี้ เป็นปีสำคัญมากในวงการวิทยุ เพราะประเทศไทยเริ่มตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์เป็นครั้งแรก
ทำให้ต้องเปิดการสอนโทรทัศน์เป็นวิชาภาคผนวก (วิชาเสริม)
อีกวิชาหนึ่ง โดย อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ ได้เปิดอบรมให้ครู
หลังจากเลิกจากการสอน และท่านได้เริ่มสอนโทรทัศน์เอง (ความจริงท่าน
เริ่มสอนโทรทัศน์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แล้ว แต่เป็นการสอนเบื้องต้นง่าย
ๆ เพิ่งจะมาเอาจริงจังกันปีนี้เอง และสถานีโทรทัศน์ก็ได้รับนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคฯ
เข้าทำงานหลายคน
พ.ศ. 2497 อาจารย์ภิญโญ แก้วประสิทธิ์ และ อาจารย์หิรัญ
มีชูทรัพย์ ลาออก และมีอาจารย์มาเพิ่มใหม่ คือ อาจารย์วิจิตร เลาหพัชรินทร์ , อาจารย์ประยูร
โกสินทร์จิตต์, อาจารย์โกเมศ สุอรุณ และ อาจารย์ประพันธ์ นิลดำ
พ.ศ. 2498 เริ่มการสร้างห้องส่งกระจายเสียงแบบถาวร
(เดิมส่งที่ห้องกระจายเสียงชั่วคราวบริเวณปีกซ้ายของตึกอำนวยการ) โดยย้ายขึ้นชั้นบนทางปีกขวาของตึกอำนวยการ
เมื่อห้องส่ง สร้างแล้วเสร็จจึงได้เริ่มทดลองส่งกระจายเสียงเกือบตลอดคืน โดยมีอาจารย์และนักศึกษาบางคน
นอนเฝ้าเครื่องกันเลยทีเดียว การเรียนในปีนี้คึกคัก และเข้มแข็งมาก และมีการเริ่มตั้งเสาอากาศขนาดสูง
30 เมตร โดยฝีมือนักศึกษาเช่นกัน วิชาโทรทัศน์สอนมากขึ้น แต่ยังไม่มี LAB ทางด้านโทรทัศน์
โดยเฉพาะขณะนั้นสอน LAB รวมๆ กันไป เพราะห้อง LAB ยังเล็ก ดังนั้นทางวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ
จึงดำเนินการสร้างตึกวิทยุ แต่หัวหน้าแผนกฯ ไม่เอาเพราะเป็นหลังคารูปแหลมไม่เหมาะกับการรับ-ส่งวิทยุ
(คล้ายตึกช่างไฟฟ้า, ช่างยนต์ ในปัจจุบัน) ดังนั้นตึกดังกล่าวจึงเป็นอาคารเรียนของแผนกวิชาเทคนิคอุตสาหกรรม
(ปัจจุบันตึกหลังคารูปแหลมดังกล่าวถูกทุบ แล้วสร้างเป็นตึกใหม่ เพื่อใช้ในการเรียนของแผนกเทคนิคอุตสาหกรรม)
พ.ศ. 2499 สร้างตึกวิทยุใหม่ (ตึก 16/1 ในปัจจุบัน)
งานใหญ่คืองานขนย้ายสิ่งของ และติดตั้งเสาอากาศใหม่ ดังนั้นนักศึกษารุ่นนี้จึงได้งานภาคปฏิบัติมากจริง
ๆ โดยในปีนี้ได้แบ่งห้องปฏิบัติออกเป็น 4 ห้อง คือ Audio, Receiver, Transmiter,
Tester & Mechanics โดยมีครูประจำแยกห้องละ 1 คน เพื่อจะให้การสอนได้ผลเต็มที่
อาจารย์แต่ละท่านได้ค้นคว้าวิชาเฉพาะอย่าง ผลการสอนจะได้ดีขึ้น ในปีนี้ ทางแผนกได้ส่งอาจารย์ปรีชา
ทรัพย์สมบูรณ์ ไปศึกษาเพิ่มเติมที่ U.S.A. เพื่อที่จะได้นำของใหม่ ๆ กลับมาปรับปรุงแผนกฯ
ให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
พ.ศ. 2500 สร้างเครื่องส่ง 2 กิโลวัตต์ อีกหนึ่งเครื่อง
เป็นเครื่องส่ง 3.202 MHz โดยอาจารย์ประยูร โกสินทร์จิตต์ (เสียชีวิต ปี พ.ศ. 2539)
และปีนี้ได้เริ่มเปิดสอนรอบบ่ายขึ้นเป็นปีแรก และวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ได้ส่ง
อาจารย์วิจิตร เลาหพัชรินทร์ ไปเรียนวิชาครูช่างวิทยุ ที่ U.S.A. เป็นเวลา 1 ปี
และทางวิทยุศึกษา ได้ส่ง อาจารย์อุดม จะโนภาษ ไปดูงานด้านกระจายเสียงและโทรคมนาคม
เป็นเวลา 1 ปี และในปีนี้ อาจารย์ปรีชา ทรัพย์สมบูรณ์ เดินทางกลับจาก U.S.A. ทางวิทยุศึกษาก็ได้ขยายงานส่งกระจายเสียงวิทยุโรงเรียนทั้งวัน
ห้อง LAB ทุกห้องจึงถูกรบกวนมาจากเครื่องส่ง ผลสุดท้ายต้องย้ายห้อง LAB มาอยู่ที่ตึก
10 ชั้นบน และในปีนี้เอง อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ ได้สร้างเครื่องส่งโทรทัศน์ขนาดเล็กขึ้น
และจดทะเบียนไว้เป็นเครื่องส่งขนาดเล็กช่อง 3 (ขาว-ดำ) ต่อมางบประมาณไม่มีพอที่จะส่งจริง
ๆ จึงต้องถูกยุบเลิกไป และในปีนี้ได้อาจารย์เพิ่มอีก 2 ท่าน คือ อาจารย์ชิต ศรีนวล
และ อาจารย์วินัย เกตุปัญญา
พ.ศ. 2501 ส่งอาจารย์ประยูร โกสินทร์จิตต์ และ อาจารย์ประพันธ์
นิลดำ ไปเรียนต่อที่แผนกฝึกหัดครูมัธยมวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ส่วนอาจารย์วิจิตร
เลาหพัชรินทร์ และ อาจารย์อุดม จะโนภาษ ได้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ในปีนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นการปรับปรุงแผนกฯ
เพราะได้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น แผง Demonstration มามาก ปีนี้ได้อาจารย์เพิ่มอีก
1 ท่าน คือ อาจารย์เมี้ยน สามห้วย
พ.ศ. 2502 แผนกวิทยุจัดสร้าง Score Board ที่สนามกีฬาแห่งชาติ
นับเป็น Score Board อันแรกในประเทศไทย ปีนี้ได้ส่งอาจารย์ประยูร โกสินทร์จิตต์
ไป U.S.A. และ อาจารย์อุดม จะโนภาษ ถูกยืมตัวไปช่วยราชการที่ศูนย์ฝึกอบรมครู ปีนี้ได้อาจารย์เพิ่มอีก
1 ท่าน คือ อาจารย์เฉลิม ภัทรโกศล (เสียชีวิตแล้ว) และได้เริ่มสอน Transistor อย่างจริงจัง
สร้างห้องกระจายเสียงและติดตั้งอุปกรณ์ห้องส่งที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยความควบคุมของ
อาจารย์ประพันธ์ นิลดำ
พ.ศ. 2503 ปีนี้งานทางด้านโทรคมนาคมมีงานมากขึ้น ทางแผนกวิทยุจึงต้องเปิดสอนแผนก
โทรคมนาคมขึ้นอีก แต่ก็ได้รวมการกระจายเสียงและเครื่องมือใหม่ ๆ ไว้ในโรงงานเดียวกัน
ซึ่งเรียกว่า General Shop และเตรียมโครงการที่จะขยายเครื่องส่งจาก 2 K.W. เป็น
10 K.W. นอกจากนี้ อาจารย์ประยูร โกสินทร์จิตต์ ได้เดินทางกลับจากต่างประเทศ และทางแผนกฯ
ยังได้รับอัตรากำลังเพิ่มอีก 2 ท่าน คือ อาจารย์ขรรค์ชัย โตดี และ อาจารย์ชลอ ปัญญาเกตุ
พ.ศ. 2504 กรมอาชีวศึกษา กำลังจะเปลี่ยนหลักสูตรใหม่
ทำให้กระทบกระเทือนถึงวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ โดยทางวิทยาลัยฯ
จึงได้ส่ง อาจารย์ปรีชา ทรัพย์สมบูรณ์ ไปร่วมประชุมหลักสูตรโรงเรียนช่างกลทั่วประเทศ
และเตรียมงานสำหรับการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรด้วย ในปีนี้ทางกรมอาชีวศึกษา
ได้ส่ง อาจารย์ปรีชา ทรัพย์สมบูรณ์ ไปศึกษาต่อที่ R.C.A. ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นเวลา 4 ปี และได้รับอาจารย์เพิ่มอีก 1 ท่าน คือ อาจารย์ดุษฎี
คำปัญญา แต่ อาจารย์วินัย เกตุปัญญา ก็ลาออกในปีนี้ด้วย
พ.ศ. 2505 งานทางด้านโทรคมนาคมได้ขยายตัวอย่างกว้างขวาง
โดยติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของศูนย์โทรคมนาคม และกรมไปรษณีย์โทรเลข ผลก็คือนักศึกษาที่สำเร็จในปีนี้
เข้าทำงานที่องค์การโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยถึง 80%
วันที่ 14 กรกฎาคม 2505 เป็นวันสำคัญที่จดบันทึกไว้ในประวัติของแผนกวิทยุ
เพราะเป็นวันที่เราได้สูญเสีย อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ ซึ่งเป็นผู้ที่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง
เพื่อลูกศิษย์ลูกหา, เพื่อวิทยาลัยเทคนิคฯ, เพื่อแผนกวิทยุ และเพื่อประเทศชาติ โดยไม่คำนึงถึงความสุขของท่านเลย
อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ เป็นทั้งหัวหน้าแผนกวิทยุ เป็นทั้งครูของอาจารย์ทุกคนในแผนกฯ
เป็นทั้งอาจารย์และพ่อของนักศึกษา ซึ่งท่านได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคหัวใจวาย
ในขณะที่ท่านดูโทรทัศน์ที่ท่านทำกับมือของท่านเองเป็นเครื่องแรก ตั้งแต่เริ่มมีโทรทัศน์ใหม่ๆ
เวลาประมาณ 02.00 น. ของคืนวันที่ 13 กรกฎาคม 2505 ซึ่งก็ประหลาดอย่างมากที่วันนั้นตรงกับวันสถาปนาของวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ
(วันที่ 14 กรกฎาคม) พอดี พวกเราชาววิทยุมีความเศร้าและสลดใจอย่างที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม งานของแผนกวิทยุก็คงดำเนินไปอย่างเรียบร้อย
ด้วยความร่วมมืออย่างดีจากนักศึกษาทุกคน และทางวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ ได้แต่งตั้งให้
อาจารย์พิชิต โภควัฒน์ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่มีอาวุโสสูงสุดเป็น ผู้รักษาการหัวหน้าแผนกวิชาช่างวิทยุ
(หัวหน้าแผนกฯ คนที่ 2) และในปีนี้ได้มีการเปลี่ยนเสาอากาศใหม่ จากเสาอากาศแบบเสาเดี่ยวเป็นแบบหอคอย
(Tower) รวมทั้งมีการวัดผล และการรับฟังวิทยุศึกษา ในต่างจังหวัด นอกจากนี้ อาจารย์อุดม
จะโนภาษ ได้กลับจากราชการ ที่ศูนย์ฝึก Seator ในตอนต้นปี ตอนกลางปีได้มีการจัดสัมมนาหลักสูตรใหม่
โดยเปลี่ยนเป็นแบบ Credit หลักสูตรช่างเสร็จเรียบร้อย แต่ยังไม่พร้อมที่จะใช้ มีการเจรจากับเจ้าหน้าที่ออสเตรเลีย
เพื่อขอ เครื่องส่งขนาด 10 K.W. รวมทั้งเสาอากาศ และ เครื่องส่ง F.M. ซึ่งการเจรจาได้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี
พ.ศ. 2506 หลักสูตรยังคงใช้หลักสูตรเดิมอยู่ แต่มีการประชุมเฉพาะผู้อำนวยการแต่ละวิทยาลัย
แล้วจึงนำเอาผลมาประกาศใช้อีกที ซึ่งในปีนี้มีการปรับปรุงภายในเป็นการใหญ่ เพราะต้องเตรียมตัวไว้สำหรับหลักสูตรในปี
พ.ศ. 2507
พ.ศ. 2507 อาจารย์ปรีชา ทรัพย์สมบูรณ์ เดินทางกลับจาก
U.S.A. ตอนต้นปี จึงได้จัดร่างหลักสูตรของแผนกฯ ขึ้นใหม่ทั้งหมดเสนอวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพฯ
เมื่อวิทยาลัยฯ รับหลักการจึงได้ใช้หลักสูตรใหม่ศึกษากัน ในปีนี้ทางกรมพลศึกษาได้ติดต่อให้สร้าง
Score Board ใหม่อีกอันหนึ่ง และซ่อม Score Board อันเก่า แต่ก็ยังไม่ได้สร้าง เพียงแต่คิดแบบแผนเสนอขึ้นไปให้กรมพลศึกษาพิจารณาเท่านั้น
ตอนกลางปี อาจารย์ปรีชา ทรัพย์สมบูรณ์ (หัวหน้าแผนกฯ คนที่ 3) ได้สร้างห้องเรียน
ELECTRONICS ขึ้น ตามแนวความคิดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และมีการออกแสดงที่งานศิลปหัตถกรรม
บริเวณโรงเรียนสาธิตจุฬา และสิ่งสำคัญคือได้เปลี่ยนชื่อแผนกฯ จาก แผนกช่างวิทยุ
เป็น แผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์
พ.ศ. 2508 เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์
ก็เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว ความก้าวหน้าทาง ELECTRONICS ของโลกก็รวดเร็วยิ่งขึ้นทุก
ๆ วัน พวกเราดูเหมือนจะมีภาระมากขึ้น การศึกษาก็ยากขึ้นทุก ๆ วัน อุปกรณ์และเครื่องมือก็ต้องหาเพิ่มมากขึ้น
เพราะของเก่าก็ชักจะล้าสมัย แต่อย่างไรก็ตามแผนกฯ ก็ยังรุดหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อใหม่ หรือไม่ แผนกอีเล็คโทรนิคส์ ของเรายังคงปฏิบัติงานกันอย่างเต็มที่
และมีความสามัคคีกันอย่างดี ไม่ว่าครูและนักเรียน มีความร่วมมือกันทุกฝ่าย ซึ่งทำให้แผนกฯ
ก้าวหน้าไปอย่างไม่ต้องสงสัย ในปีนี้เองที่อยู่ในระยะการปรับปรุงหลักสูตรใหม่ ทางแผนกฯ
ต้องเข้าอบรมเกี่ยวกับระบบการให้คะแนน Credit และก็เป็นระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ อาจารย์วิจิตร เลาหพัชรินทร์ ได้ขอย้ายไปรับราชการเป็น ศึกษานิเทศก์ กรมอาชีวศึกษา
พ.ศ. 2509 ทางแผนกฯ ได้รับบรรจุอาจารย์ใหม่มาอีก 2
ท่าน คือ อาจารย์สุรพล รัตโนดม (เสียชีวิต เมื่อ ตุลาคม 2541) สอบบรรจุเข้ามา และ
อาจารย์ปรีดา โรจน์โพธิ์ ซึ่งย้ายมาจากโรงเรียนการช่างเชียงใหม่ ซึ่งต่อมา อาจารย์เฉลิม
ภัทรโกศล ได้ขอย้ายกลับไปรับราชการที่กรมประชาสัมพันธ์ และ อาจารย์ปรีดา โรจน์โพธิ์
ถูกย้ายกลับไปอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคพายัพ เชียงใหม่
พ.ศ. 2510 ทางแผนกฯ ยังไม่ได้รับอาจารย์เพิ่ม แต่ต้องรับภาระในการควบคุมดูแลการสร้างเสาอากาศ
และติดตั้งเครื่องส่งวิทยุศึกษา ขนาด 10 K.W. ซึ่งประเทศออสเตรเลียได้ช่วยเหลือตามแผนการโคลัมโบ
ให้แก่กองเผยแพร่การศึกษา โดยออกอากาศได้ในปีการศึกษา 2511 และทางแผนกฯ ได้สร้างเครื่องส่ง
F.M. ทดลองออกอากาศ จำนวน 1 เครื่อง
พ.ศ. 2511 อาจารย์ปรีชา ทรัพย์สมบูรณ์ ได้พยายามขออาจารย์เพิ่ม
แต่ไม่ได้ผลประการใด และปีการศึกษานี้เอง ทางแผนกฯ ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียนเป็นตึก
3 ชั้น (ตึก 16/2) โดยสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2512 และได้ย้ายห้องปฏิบัติการจากอาคารเรียนตึก
10 ไปรวมอยู่ที่ตึกใหม่ (ตึก 16/2) ทั้งหมด แต่ก็มีอาจารย์ได้ลาออกอีก 1 ท่าน คือ
อาจารย์ขรรค์ชัย โตดี
พ.ศ. 2512 อาจารย์อุดม จะโนภาษ ได้ลาออกเพื่อไปทำงานที่
ไทยทีวีสี ช่อง 3 ตำแหน่ง หัวหน้าช่าง ซึ่งเราทุกคนดีใจในความก้าวหน้าที่อาจารย์ได้รับ
และเวลาเดียวกันทางแผนกฯ ได้รับอาจารย์ใหม่เพิ่มอีก 3 ท่าน คือ อาจารย์ชิดชนก ถนอมดี
(EE-15), อาจารย์ฉลองชัย จำเนียรศรี (EE-16) และ อาจารย์จเร สาธุเสน (EE-16) ซึ่งได้ช่วยกันทำการสอนและปฏิบัติงานกันอย่างดี
พ.ศ. 2513 เป็นปีแรกที่อาจารย์ของเราได้รับการส่งเสริมเพื่อศึกษาเพิ่มเติม
โดยหัวหน้าแผนกฯ ได้ส่งเสริมอย่างเต็มที่ ขั้นแรกมีอาจารย์ได้รับทุนฯ 2 ท่าน คือ
อาจารย์ดุษฎี คำปัญญา ได้รับคัดเลือกไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยโทรคมนาคม เป็นเวลา 2
ปี และอีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์สุรพล รัตโนดม ได้รับทุนไปศึกษาที่วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ
(ไทย-เยอรมัน) เป็นเวลา 4 ปี เริ่มท่าทีก็เอาจริง แต่เมื่อเรียนไปได้เดือนเศษ ก็ขอกลับมาสอนตามเดิมด้วยเหตุผลบางประการ
ในปีการศึกษานี้ สิ่งที่เราภูมิใจอย่างยิ่งก็คือความสำเร็จในการสร้างเครื่องส่ง
ซึ่งจัดสร้างโดยความร่วมมือของอาจารย์ และนักศึกษา โดยได้ใช้ในการถ่ายทอดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน
ซึ่งจัดในบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ สำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
พ.ศ. 2514 ทางแผนกฯ ได้รับอาจารย์เพิ่มอีก 2 ท่าน
คือ อาจารย์จิรพล วงศ์เมธานุเคราะห์ (EE-16) และ อาจารย์อำนาจ โชติสกุล ซึ่งได้ช่วยทำการสอนทางด้านโทรคมนาคมอีกด้านหนึ่ง
และปีนี้มีอาจารย์ได้รับทุนอีก 2 ท่าน คือ อาจารย์ประพันธ์ นิลดำ ได้รับทุนจากวิทยุศึกษา
กองเผยแพร่การศึกษา ให้ไปดูงานทางด้านอีเล็คโทรนิคส์ และการกระจายเสียง ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นเวลา 1 ปี ส่วนอีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์เมี้ยน สามห้วย อาจารย์ฝ่ายปกครอง ก็ได้ศึกษาต่อ
ณ วิทยาลัยศึกษาประสานมิตร เป็นเวลา 2 ปี นอกจากนี้ ประมาณกลางปีการศึกษา ได้จัดสร้างเครื่องส่ง
F.M. ขนาด 1 K.W. โดยอาจารย์ปรีชา ทรัพย์สมบูรณ์ (หัวหน้าแผนกฯ) , อาจารย์โกเมศ
สุอรุณ , คณะอาจารย์ และนักศึกษาของแผนกฯ เพื่อใช้ในการถ่ายทอด และกระจายเสียงในสังกัดวิทยุศึกษา
ซึ่งได้ติดตั้งพร้อมเสาอากาศ ณ ตึกวิทยุศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ปรากฏว่าได้ผลต่อผู้รับฟัง
และผลต่อการศึกษาเป็นอย่างดี ในช่วงระยะนี้เองก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยการร่างหลักสูตรการศึกษาให้รวบรัด
และทันต่อเหตุการณ์ทางด้าน ELECTRONICS เพื่อให้ใช้ได้ในปีการศึกษา 2515 อย่างรีบเร่ง
และเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2514 อาจารย์ฉลองชัย จำเนียรศรี ซึ่งสอบชิงทุนของรัฐบาลเยอรมัน
ได้เมื่อปีที่แล้ว หลังจากได้ทำการฝึกภาษาเยอรมัน เพื่อรอกำหนดการเดินทางอยู่เกือบปี
ก็มีคำสั่งด่วน ให้เดินทางไปศึกษาต่อ ณ ประเทศเยอรมันตะวันตก เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งพวกเราก็มีความยินดี
และหวังว่า อาจารย์ฉลองชัย คงจะกลับมาปรับปรุงด้าน ELECTRONICS ให้ดียิ่งขึ้น
พ.ศ. 2515 ได้เริ่มทำการสอนตามหลักสูตรใหม่ที่ได้เตรียมการไว้เมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา
และได้เริ่มใช้กับนักศึกษาใหม่ นักศึกษาจะต้องเรียนหน่วยกิตเพิ่มขึ้นจาก 84 หน่วยกิต
เป็น 90 หน่วยกิต และยังช่วยย่นระยะเวลาการศึกษาของภาคบ่ายจาก 3 ปี เหลือเพียง 2
ปีการศึกษา นอกจากนี้ อาจารย์ประพันธ์ นิลดำ เดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากที่ได้ไปดูงานเกี่ยวกับวิทยุศึกษา
เป็นเวลา 6 เดือน และได้กลับมาสอนวิชาเครื่องมือวัด ทำให้นักศึกษาได้รับความรู้ทางด้านการใช้เครื่องมืออย่างกว้างขว้างขึ้น
และในปีนี้เอง ก็ได้รับอาจารย์ใหม่อีก 1 ท่าน คือ อาจารย์เจริญ จั่นสกุล (EE-18)
ซึ่งนับว่าเป็นครูหนุ่มที่มีประสิทธิภาพดี และเป็นกำลังของแผนกฯ อีกคนหนึ่งซึ่งมีความขยัน
เอาใจใส่ และริเริ่มงาน เสียสละเวลา อุทิศตนเป็นครูอย่างจริงจัง และได้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้กับหัวหน้าแผนกฯ
ในการสร้าง Score Board โดยใช้ระบบ Digital Control เพราะถือว่าเป็นวิทยาการที่ยังใหม่สำหรับบ้านเมืองเรา
ทำให้นักศึกษาได้รับความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของ Computer ไปด้วย และ Score
Board อันนี้ได้นำไปใช้กับสนามบาสเกตบอลของวิทยาลัยฯ ได้สำเร็จเรียบร้อย
พ.ศ. 2516 ปีนี้ได้ดำเนินโครงการเดิมที่ต่อเนื่องจากปีการศึกษา
2515 เริ่มด้วยการติดตั้งเครื่องขยายเสียงตามสายไปทุก ๆ ตึกทั่ววิทยาลัย ทำให้เกิดการติดต่อระหว่างอาจารย์และนักศึกษา
ได้สะดวกรวดเร็ว และทั่วถึงกัน ในปีนี้ทางแผนกฯ ได้รับอาจารย์เพิ่มอีก 1 ท่าน คือ
อาจารย์ประเพชร บุญวรรณ (EE-15) นอกจากนี้ อาจารย์เมี้ยน สามห้วย สำเร็จการศึกษากลับมาพร้อมทั้งวุฒิ
กศ.บ. (ฟิสิกส์) จากวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) และอาจารย์ดุษฎี คำปัญญา
ก็สำเร็จ วศ.บ. จาก วิทยาลัยโทรคมนาคม (นนทบุรี) ปัจจุบัน คือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
เจ้าคุณทหาร (ลาดกระบัง) ขณะเดียวกัน อาจารย์ จิรพล วงศ์เมธานุเคราะห์, อาจารย์จเร
สาธุเสน ได้ศึกษาต่อ ณ วิทยาลัยโทรคมนาคม (นนทบุรี) และ อาจารย์อำนาจ โชติสกุล ก็ได้ไปอบรมทางวิชาการที่จัดขึ้น
ณ ศูนย์ฝึการบินพลเรือน เป็นเวลา 2 เดือน
พ.ศ. 2517 อาจารย์จิรพล วงศ์เมธานุเคราะห์ ได้รับทุนไปศึกษาต่อที่
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ
พ.ศ. 2518 อาจารย์จเร สาธุเสน ได้รับทุนไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา
และ อาจารย์ประพันธ์ นิลดำ เดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากการไปดูงานเกี่ยวกับวิทยุศึกษา
เป็นเวลา 6 เดือน ผลงานที่ทางแผนกอีเล็คโทรนิคส์ ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือ วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ
อีกอย่างหนึ่งก็คือ งานบริการโทรศัพท์ภายในวิทยาเขตฯ ทั้งหมด ซึ่งเป็นงบประมาณของแผนกฯ
ที่นำมาสร้างและมอบเป็นบริการแด่ ครู, อาจารย์, เจ้าหน้าที่ ภายในวิทยาเขตฯ
พ.ศ. 2519 อาจารย์สุรพล รัตโนดม สอนชิงทุน ได้ไปฝึกงานที่ประเทศเยอรมัน
เป็นเวลา 2 ปี , อาจารย์โกเมศ สุอรุณ ไปเรียนตอนบ่ายก็สำเร็จ ค.อ.บ. (ไฟฟ้า) กลับมา
ซึ่งนับว่าเป็นกำลังของแผนกฯ ทีเดียว ในปีการศึกษานี้ อาจารย์ปรีชา ทรัพย์สมบูรณ์
ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าคณะวิชาช่างไฟฟ้า ดังนั้น อาจารย์โกเมศ
สุอรุณ จึงได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการตำแหน่งหัวหน้าแผนกอีเล็คโทรนิคส์คนใหม่
(หัวหน้าแผนกฯ คนที่ 4) ซึ่งทุกคนดีใจที่อาจารย์ทั้ง 2 ท่าน ได้มีความก้าวหน้าในตำแหน่งการงานขึ้น
พ.ศ. 2520 อาจารย์จเร สาธุเสน ได้สำเร็จ ค.อ.บ. (ไฟฟ้า-อีเล็คโทรนิคส์)
กลับมาปฏิบัติงานเพื่อเป็นกำลังสำคัญของแผนกฯ อีกคนหนึ่ง ในปีนี้ได้มีการจัดนิทรรศการวิทยาเขตครบรอบ
25 ปี ทางแผนกฯ โดยความร่วมมือของคณะอาจารย์-นักศึกษา ได้ร่วมจัดงานแสดงผลงานของนักศึกษาครั้งนี้ด้วย
พ.ศ. 2521 อาจารย์อำนาจ โชติสกุล ได้รับทุนเพื่อศึกษาต่อที่
วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ส่วนอาจารย์ประเพชร บุญวรรณ ได้รับทุนไปอบรมที่ประเทศเยอรมัน
เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน และ อาจารย์โกเมศ สุอรุณ ได้รับทุนตามโครงการ กพท. ไปศึกษาอบรม
ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 6 เดือน และในปีการศึกษา 2521 อาจารย์โกเมศ สุอรุณ
ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าแผนกฯ ทั้งนี้เพราะสุขภาพไม่ค่อยดี ดังนั้นทางแผนกฯ จึงได้สรรหาโดยการลงคะแนนเลือกตั้ง
ผลปรากฏว่า อาจารย์เมี้ยน สามห้วย ได้รับคะแนนสูงสุด และได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแผนกอีเล็คโทรนิคส์
(หัวหน้าแผนกฯ คนที่ 5) ในปีการศึกษานี้ ทางแผนกฯ ได้ใช้หลักสูตรโครงการ กพท. ซึ่งนักศึกษาได้รับการปรับปรุงให้เรียนเสร็จภายในเวลา
2 ปี ทั้งภายในเวลาราชการ (รอบเช้า) และภาคนอกเวลาราชการ (รอบบ่าย) ส่วนครู-อาจารย์
และนักศึกษา ได้ร่วมกันพัฒนาแผนกฯ ตามแผนงานของหัวหน้าแผนกฯ จนสำเร็จลุล่วง ได้แก่
ห้องสมุด, โต๊ะฝึกงานในห้องปฏิบัติงาน, ปรับปรุงบริเวณตึก 16/1 และอาจาย์สุรพล รัตโนดม
ได้เดินทางกลับจากประเทศเยอรมัน เพื่อมาช่วยแผนกฯ อีกแรงหนึ่ง
พ.ศ. 2522 อาจารย์โกเมศ สุอรุณ ได้กลับจากการอบรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา,
อาจารย์ฉลองชัย จำเนียรศรี ก็กลับจากประเทศเยอรมัน พร้อมวุฒิ Diploma Ing. (Telecommunication)
โดยใช้เวลาศึกษาถึง 7 ปี ซึ่งก็เป็นพลังที่ช่วยเสริมในการเรียนการสอนให้ก้าวหน้า
และเข้มแข็งยิ่งขึ้น ในปีการศึกษานี้ทางแผนกฯ ได้รับเครื่องมือจากโครงการ กพท. บางส่วนอยู่เรื่อย
ๆ ด้านการพัฒนาแผนกฯ ก็ได้ดำเนินการมาโดยตลอด โดยได้ทำการปรับปรุงพื้นที่เป็นหลุม
เป็นบ่อ ระหว่างตึก 16/1 และ ตึก 16/2 โดยได้ติดต่อกับเทศบาลให้เอาดิน, ทราย จากการลอกท่อไปเทถมให้จนเต็ม
นักศึกษา, คนงาน และอาจารย์ ได้ให้ความร่วมมือกัน โดยที่วิทยาเขตฯ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
เมื่อเสร็จจากการปรับพื้นผิวแล้ว ก็ดำเนินการปลูกหญ้า พร้อมทั้งได้ฝังท่อน้ำรอบบริเวณ
และสร้างสะพานติดต่อระหว่างตึก 16/1 และ ตึก 16/2 โดยความเอื้อมเฟื้อจากแผนกช่างก่อสร้าง
และช่างโลหะ นอกจากนี้ยังได้เทพื้นคอนกรีต ตึก 16/2 เพราะมีระดับต่ำมาก ด้านการเรียน-การสอน
ได้ปรับปรุงห้องปฏิบัติการให้มีอุปกรณ์ เครื่องมือช่วยสอนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก
ๆ หน่วยงาน โดยเฉลี่ยความจำเป็นตามลำดับ ก่อน - หลัง
พ.ศ. 2523 อาจารย์ประเพชร บุญวรรณ กลับจากการฝึกอบรม
ณ ประเทศเยอรมัน ส่วน อาจารย์อำนาจ โชติสกุล ก็สำเร็จ ปริญญาตรีจากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา
กลับมาช่วยงานสอน ซึ่งเป็นแรงสำคัญทั้ง 2 ท่าน ที่จะเสริมสร้างให้การเรียน-การสอน
เข้มแข็งขึ้น และนอกจากนี้ยังได้ส่ง อาจารย์เจริญ จั่นสกุล ไปศึกษาต่อที่คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ป.สูง)
พ.ศ. 2524 ได้มีการปรับปรุงอุปกรณ์การเรียน-การสอน
ให้มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากขึ้น เช่น กล้องถ่าย ทีวีสี วีดีโอเทป เครื่องไมโครโปรเซสเซอร์
ฯลฯ ด้านอาคารก็ได้เสริมสร้างประตู, หน้าต่าง, ลูกกรง (เหล็กดัด) ซึ่งนักศึกษาได้ช่วยกันปรับปรุงห้องโถง
ตึก 16/2 ให้เป็นห้องปฏิบัติการได้ถึง 300 ตารางเมตร
พ.ศ. 2526 วิทยาเขตฯ ต่าง ๆ ที่มีการเรียนในสาขาวิชาที่เหมือนกัน
ได้รับคำสั่งจาก กรมฯ ให้ทำการสัมมนาปรับปรุงหลักสูตรวิชาเรียน และได้เริ่มต้นใช้งาน
ส่วน อาจารย์สุรพล รัตโนดม ก็ได้รับทุนไปดูงานด้านคอมพิวเตอร์ ณ ประเทศเยอรมัน เป็นเวลา
3 เดือน
พ.ศ. 2527 ครู-อาจารย์ จากวิทยาเขตฯ ต่าง ๆ ในส่วนกลาง
ได้ร่วมกันจัดทำข้อสอบมาตรฐาน แต่ละวิชา โดยเก็บรักษาไว้ที่กรมฯ เพื่อใช้เป็นข้อสอบกลาง
ส่วน อาจารย์ประเพชร บุญวรรณ ได้รับทุนไปฟื้นฟูทางด้านวิชาการ ทางด้านเทคนิค ณ ประเทศเยอรมัน
เป็นเวลา 3 เดือน
พ.ศ. 2528 ทางแผนกฯ ได้จัดทำรายละเอียด เพื่อแยกสาขาวิชาเรียนในภาคเรียนที่
2 ของนักศึกษาระดับ ปวส. ปีที่ 2 ซึ่งในส่วนของแผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์ แบ่งออกเป็น
5 สาขาวิชาเรียน คือ
1. สาขาวิชาอีเล็คโทรนิคส์
2. สาขาเทคนิคสื่อสาร
3. สาขาเทคนิคคอมพิวเตอร์
4. สาขาเทคนิคเสียง และวีดีโอ
5. สาขาอีเล็คโทรนิคส์อุตสาหกรรม
ในปีการศึกษานี้ เป็นที่น่ายินดีมากที่ทางแผนกฯ ได้รับครุภัณฑ์ จากโครงการเงินยืม
1,161,914.- บาท ซึ่งประกอบด้วยเครื่อง Slotted Line, Field Strength Meter Industrial,
Electronic Demonstrater, Micro Computer Trainer อย่างละ 1 ชุด
พ.ศ. 2529 เริ่มต้นใช้หลักสูตรแยกสาขาวิชาเรียนของ
นักศึกษาระดับ ปวส. ปีที่ 2 ในภาคเรียนที่ 2 โดยทางแผนกฯ เลือกเปิดสอน 3 สาขา คือ
สาขาอีเล็คโทรนิคส์, สาขาเทคนิคสื่อสาร, สาขาเทคนิคคอมพิวเตอร์ และขณะเดียวกันทางแผนกฯ
ได้จัดเตรียมหลักสูตรเพื่อทำการเปิดแผนกใหม่ คือ แผนกเทคนิคคอมพิวเตอร์ และในปีการศึกษานี้
ทางแผนกฯ ได้รับครุภัณฑ์จากโครงการเงินยืม จำนวน 1,527,815.- บาท ซึ่งประกอบด้วยเครื่อง
Oscilloscope Dual Trace จำนวน 5 ตัว, Polyscope จำนวน 1 ตัว, Microwave Training
Set จำนวน 1 ชุด และ Microprocessor จำนวน 5 ชุด
พ.ศ. 2530 ครู-อาจารย์ และนักศึกษาแผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์
ได้ร่วมกับศิษย์เก่าแผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์ โดยมี อาจารย์วิจารณ์ ก้องสมุทร (EE#4)
เป็นประธานในการจัดงาน ชุมนุมศิษย์เก่า ช่างวิทยุ-อีเล็คโทรนิคส์ เทคนิคกรุงเทพฯ (ครั้งที่
1) ในวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2530 ณ โรงแรมบางกอก พาเลส ได้เงินจำนวน 85,067.- บาท
(ปัจจุบันยอดเงิน 100,000.- บาท และได้นำดอกเบี้ยมาเป็นทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาแผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์
และ พัฒนาแผนกฯ) และ เป็นที่น่ายินดีมากเมื่อ อาจารย์ปรีชา ทรัพย์สมบูรณ์ ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น
อาจารย์ 3 ระดับ 9 (ซี 9) และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายโครงการพิเศษ
ซึ่งนับเป็นเกียรติอย่างสูงของครูในแผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์ และ ในปลายปี อาจารย์ปรีชา
ทรัพย์สมบูรณ์ ก็ครบเกษียณอายุราชการ จากนั้นครู-อาจารย์ และนักศึกษาภายในแผนกฯได้ร่วมกันจัดทำ
และส่งผลงานผลิตหลายชิ้นเข้าประกวดในงาน ITEX ที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา
จัดขึ้น โดยมีเครื่องป้องกันการบุกรุก ประกอบด้วยโทรศัพท์แจ้งเหตุ ซึ่งสามารถตอบรับได้โดยอัตโนมัติ
โดยเครื่องนี้จัดทำโดยอาจารย์ที่ปรึกษา และนักศึกษา (นายยุทธชัย หวังมุทิตากุล)
ได้รับรางวัลงานผลิตดี
พ.ศ. 2531 วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า
สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ด้านงานพัฒนา ได้ดำเนินการปรับปรุงห้องปฏิบัติการ 205
(ตึก 16/2) เพื่อเตรียมรับโครงการห้อง Micro Processor และ ศิษย์เก่า ยังได้มอบเครื่อง
Micro Computer เพื่อใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนจำนวน 1 ชุด ในปีการศึกษานี้ อาจารย์อำนาจ
โชติสกุล ได้ลาออกจากราชการ เพื่อไปงาน บริษัทฯ และทางแผนกฯ ได้รับอัตราครูใหม่เพิ่มอีก
1 ท่าน คือ อาจารย์รังสรรค์ วิจิตรกาญจน์
นอกจากนี้ยังมีการจัดงาน ราตรีอิเล็กทรอนิกส์ 36 เมื่อวันที่ 14 มกราคม
2532 ณ โรงแรมวินด์เซอร์ (สุขุมวิท 20)
พ.ศ. 2532 อาจารย์เมี้ยน สามห้วย
ได้ขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าแผนกฯ ตามวาจาที่ได้ประกาศไว้ ดังนั้นทางแผนกฯ
จึงได้ลงคะแนนให้ อาจารย์เจริญ จั่นสกุล เป็นหัวหน้าแผนกช่าง
อีเล็คโทรนิคส์ (หัวหน้าแผนกฯ คนที่ 6) ในปีนี้ทางแผนกฯ เป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันทักษะทางวิชาการด้านอีเล็คโทรนิคส์เป็นครั้งแรก
และนักศึกษาแผนกอีเล็คโทรนิคส์ ได้เสนอจัดตั้งชมรมคอมพิวเตอร์
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรนักศึกษา ได้เป็นผลสำเร็จ
นอกจากนี้ยังมีการจัดงาน Electronics Night Party ณ โรงแรมแมนดาริน
ห้องการะเกด (วันที่ 3 มีนาคม 2533)
พ.ศ. 2533 ทางแผนกฯ ได้ขอเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันทักษะทางวิชาการด้านคอมพิวเตอร์
ซึ่ง อาจารย์เจริญ จั่นสกุล (หัวหน้าแผนกฯ) ได้มุ่งเน้นพัฒนาการเรียน-การสอนด้านคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น
ในปีการศึกษาได้ ได้มีอาจารย์เพิ่มขึ้นอีก 4 ท่าน คือ อาจารย์ดารณี ทองไทยนันท์
(ขอโอนย้ายจาก วข.ตาก) , อาจารย์เสรี ปานซาง, อาจารย์ปรียาภรณ์ มัชฌิกะ และ อาจารย์ต่อพงษ์
ชุมนุมมณี
ปลายปีการศึกษา 2533 (ต้นปี พ.ศ. 2534) ได้มีการเตรียมจัดงาน
ชุมนุมศิษย์เก่าช่างวิทยุ-อีเล็ค โทรนิคส์ เทคนิคกรุงเทพฯ (ครั้งที่ 2)
แต่ต้องล้มเลิกไปเนื่องจากมีการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (รสช.)
พ.ศ. 2534 เปิดรับนักศึกษาแผนกใหม่ คือ แผนกเทคนิคคอมพิวเตอร์
โดยอาจารย์ยังทำการสอน และ ใช้สถานที่ร่วมกันกับแผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์ และนักศึกษาทั้งสองแผนกฯ
ก็ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน นอกจากนี้คณะครูอาจารย์ ,นักศึกษา และศิษย์เก่า ได้ร่วมกันหล่อรูปปั้น
อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ เป็นโลหะ เพื่อเป็นอนุสรณ์และสักการะบูชา
นอกจากนี้ อาจารย์จเร สาธุเสน ได้รับแต่งตั้งเป็นอาจารย์ 3 นับเป็นอาจารย์ท่านที่
2 ของแผนกฯ ที่ได้ตำแหน่งอาจารย์ 3 ต่อจากอาจารย์ปรีชา ทรัพย์สมบูรณ์ และในปีนี้ทางแผนกฯ
ได้รับการบรรจุอาจารย์ใหม่เพิ่มอีก 4 ท่าน คือ อาจารย์ทวีวงศ์ อัครเลิศเศรษฐ (EE-38),
อาจารย์สุภณ พลสิงห์, อาจารย์เพ็ญรุ่ง มงคลขจิต (EE-36) และอาจารย์ปราโมทย์ อนันต์วราพงษ์
(EE-36)
พ.ศ. 2535 ช่วงปีการศึกษานี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง
เมื่ออาจารย์โกเมศ สุอรุณ และ อาจารย์ชิต ศรีนวล ได้เกษียณอายุราชการ ซึ่งพวกเรารู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันก็ได้รับอาจารย์เพิ่มอีก 4 ท่าน คือ อาจารย์พูนศักดิ์ วงศ์สวัสดิ์ (EE-37),
อาจารย์อนันต์ โสภิณ (EE-39), อาจารย์นิพนธ์ ทางทอง (EE-38) และ อาจารย์ศราวุธ วงศ์ตระกูล
(EE-38)
ในระหว่างภาคเรียนที่ 2 ทางแผนกฯ ต้องทำการแยกบุคลากร และแยกแผนกฯ ออกให้ชัดเจน
ระหว่างแผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์ และแผนกเทคนิคคอมพิวเตอร์ เพราะอาคารเรียนของแผนกเทคนิคคอมพิวเตอร์ได้สร้างเสร็จแล้ว
(ติดกับแผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์)
อาจารย์เจริญ จั่นสกุล หัวหน้าคณะวิชาช่างไฟฟ้า
อาจารย์จเร สาธุเสน หัวหน้าแผนกวิชาช่างอีเล็คโทรนิคส์ (หัวหน้าแผนกฯ
คนที่ 7)
อาจารย์ดารณี ทองไทยนันท์ หัวหน้าแผนกเทคนิคคอมพิวเตอร์
อาจารย์ประจำแผนกเทคนิคคอมพิวเตอร์
อาจารย์สุรพล รัตโนดม
อาจารย์เสรี ปานซาง
อาจารย์ปรียาภรณ์ มัชฌิกะ
อาจารย์ต่อพงษ์ ชุมนุมมณี
อาจารย์พูนศักดิ์ วงศ์สวัสดิ์
พ.ศ. 2536 แผนกวิชาช่างอีเล็คโทรนิคส์ ได้เริ่มปรับปรุงพัฒนาทางด้าน
อีเล็คโทรนิคส์-สื่อสาร มากขึ้น โดยเน้นด้านการปฏิบัติการ และวิชาการมากขึ้น โดยในปีการศึกษานี้
ทางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ได้มีคำสั่งให้เปิดทำการสอนสาขางานรองเพิ่มอีก 1 สาขา
คือ สาขาอีเล็คโทรนิคส์-อากาศยาน โดยส่งอาจารย์ 3 ท่าน คือ อาจารย์รังสรรค์ วิจิตรกาญจน์,
อาจารย์เพ็ญรุ่ง มงคลขจิต และ อาจารย์ปราโมทย์ อนันต์วราพงษ์ ไปอบรมดูงานทางด้านอากาศยาน
ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 8 เดือน เพราะในปีการศึกษานี้ ทางแผนกฯ ได้เปิดสาขางานรอง
อีเล็คโทรนิคส์-อากาศยาน เป็นปีแรก โดยรับนักศึกษาเพิ่มอีก 1 ห้อง (ห้อง ค. เช้า)
เพื่อเรียนสาขาอากาศยาน โดยเฉพาะ
กันยายน 2536 มีอาจารย์ 2 ท่าน เกษียณอายุราชการ คือ อาจารย์เมี้ยน
สามห้วย และ อาจารย์ประพันธ์ นิลดำ และทางแผนกฯ ได้รับอาจารย์ใหม่เพิ่มอีก 3 ท่าน
คือ อาจารย์ทวีศักดิ์ ยิ่งถาวรสุข (EE-38), อาจารย์พิเชษฐ์ พานเที่ยง (EE-38) และ
อาจารย์พงระภี ศรีสวัสดิ์ (EE-37) เพื่อมาช่วยกันพัฒนาแผนกช่างอีเล็คโทรนิคส์ของเราต่อไป
ในช่วงภาคเรียนที่ 2 นักศึกษาปวส. ปีที่ 2 (EE #41) และ นักศึกษา ปวส.ปีที่
1 (EE# 42) ได้เตรียมจัดงานกิจกรรมใหญ่ของแผนกฯ ขึ้น แต่ก็พบกับปัญหา และอุปสรรค์
อย่างมาก แต่ด้วยแรงสนับสนุนของ อาจารย์จเร สาธุเสน (หัวหน้าแผนกฯ) , อาจารย์เพ็ญรุ่ง
มงคลขจิต (กลับจาก U.S.A.) กับ อาจารย์พงระภี ศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษากิจกรรม
และความสนับสนุนของนักศึกษาศิษย์เก่า - ศิษย์ปัจจุบัน จึงได้มีงาน 41 ปี
ราตรีม่วงขาวในวันที่ 15 มกราคม 2537 ณ สนามฟุตบอล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ
และ เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เป็นงานรวมพี่ รวมน้อง ของอีเล็คโทรนิคส์ โดย อาจารย์จเร
สาธุเสน (หัวหน้าแผนกฯ) ได้วางแนวทางไว้ว่าจะจัดงานราตรีม่วงขาว ทุก ๆ 2 ปี (ปีเว้นปี)
ซึ่งในงานครั้งนี้สามารถจัดตั้งกองทุน กองทุนพัฒนาแผนกฯ โดยมียอดเงินเริ่มต้นที่
50,000.- บาท (ปัจจุบัน ได้นำมารวมกับกองทุนเดิม เป็น กองทุนอาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ
เป็นเงินทั้งสิ้น 150,000.- บาท)
พ.ศ. 2537 ในปีนี้ อาจารย์พิเชษฐ พานเที่ยง และ อาจารย์ทวีศักดิ์
ยิ่งถาวรสุข ได้ลาออกจากราชการ และได้มีอาจารย์สมหวัง กิจยรรยง และ อาจารย์อนุสรณ์
สาธุเสน (EE-37) มาเพิ่มอีก 2 ท่าน ทางด้านการเรียนก็ยังเน้นทั้งทฤษฎี และปฏิบัติ
อีกทั้งการไปดูงานนอกสถานที่ เพื่อให้นักศึกษาได้สัมผัสกับสถานประกอบการจริงๆ และยังมีการปรับปรุงสถานที่พักผ่อน
บริเวณสนามหญ้า ระหว่างตึก 16/1 และ ตึก 16/2 ได้ดำเนินการสร้าง เส้นทางเดิน ไปยัง
เนินดิน EE ซึ่งก็คือทางแห่งความสำเร็จ และยังมีซุ้ม พร้อม ที่นั่ง (ม้าหิน)
จำนวน 4 ชุด (ผู้ปกครองร่วมบริจาคฯ) โดยเกิดจากความคิด และ แรงสนับสนุน ของอาจารย์จเร
สาธุเสน (หัวหน้าแผนกฯ) พร้อมกำลังแรงกาย - แรงใจของอาจารย์และนักศึกษา
EE #43 (ปวส. ปีที่ 1) รอบเช้า 3 ห้อง (รวมห้อง ค. เช้า) และ
รอบบ่าย 2 ห้อง จำนวน 175 คน
EE #42 (ปวส. ปีที่ 2) สาขาทั่วไป, สื่อสาร, คอมพิวเตอร์ และ
ห้อง ค. เช้า (อากาศยาน) จำนวน 171 คน
พ.ศ. 2538 ปีการศึกษานี้ถือได้ว่ามีการพัฒนาขึ้นไปอีกก้าวหนึ่ง
เพราะแผนกวิชาช่าง อีเล็คโทรนิคส์ ได้เปิดสอนระดับปริญญาตรี
ครุศาสตร์อุตสาหกรรมอีเล็คโทรนิคส์-โทรคมนาคม (ค.อ.บ.) ภาคสมทบ
จำนวน 1 ห้องเรียน โดย อาจารย์จเร สาธุเสน ได้จัดทำโครงการฯ
และประสานงานกับทางสถาบันฯ และได้มอบหมายให้ อาจารย์ฉลองชัย
จำเนียรศรี เป็นหัวหน้าสาขาฯ นอกจากนี้ยังมีการ ปรับปรุง -
ต่อเติม เพื่อเพิ่มจำนวนห้องเรียนให้มากขึ้น รวมทั้งปรับปรุงห้องปฏิบัติการ
(LAB) เพิ่มเติมระบบปรับอากาศ (แอร์คอนดิชั่น) และปรับปรุงระบบแสงสว่าง
และกันความร้อน ส่วนสาขางานรอง อีเล็คโทรนิคส์-อากาศยาน ก็ได้รับงบประมาณจากวิทยาเขตฯ
เพื่อซื้อเครื่องมือ-เครื่องใช้ ในการเรียน-การสอน เป็นเงินจำนวนหลายล้านบาท
ปีการศึกษานี้ วิทยาเขตฯ มีการปรับพื้นถนนคอนกรีตบริเวณรอบเทคนิคกรุงเทพฯ
รวมทั้งบริเวณหน้าแผนกวิชาช่างอีเล็คโทรนิคส์ด้วย ดังนั้นนักศึกษาของแผนกฯ จึงมีงานที่จะพัฒนาบริเวณแผนกฯ
เช่น การปูอิฐตัวหนอน บริเวณหน้าตึก 16/1, ลานจอดรถ , ด้านหลังตึก 16/2 อีกทั้งยังช่วยวิทยาเขตฯ
ในการปรับพื้นถนน และ เทคอนกรีต บริเวณถนนหน้าแผนกฯ ด้วย รวมทั้งนักศึกษาของแผนกฯ
รวมตัวกันจัดตั้งชมรมวิทยุสมัครเล่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรนักศึกษา ได้เป็นผลสำเร็จ
รวมทั้งทางแผนกฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัด การแข่งขันทักษะเพื่อสร้างสรรค์วิชาการ สาขาวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์
ประจำปีการศึกษา 2538 ระหว่างวันที่ 8 - 9 กุมภาพันธ์ 2539
จากสัญลักษณ์แผนกฯ จึงได้พัฒนามาสู่คำขวัญ อีเล็คโทรนิคส์ รวมพลัง
สร้างสรรค์วิชาการ รู้รักกิจการ ประสานความสามัคคี และยังมีความหมายของสัญลักษณ์
โดยการประพันธ์ ของอาจารย์จเร สาธุเสน ซึ่งยังใช้มาถึงทุกวันนี้
EE #44 (ปวส. ปีที่ 1) รอบเช้า 2 ห้อง และ รอบบ่าย 2 ห้อง จำนวน
139 คน
EE #43 (ปวส. ปีที่ 2) สาขาทั่วไป, สื่อสาร, คอมพิวเตอร์ และ
อากาศยาน จำนวน 174 คน
ค.อ.บ. รุ่น 1 (รหัส 38) เริ่มเรียนภาคเรียนที่ 2/2538 จำนวน
30 คน
เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2539 ทางแผนกฯ โดยคณะอาจารย์ และนักศึกษา ก็ได้ร่วมกันจัดงาน 43
ปี ราตรีม่วง-ขาว ณ บริเวณสนามฟุตบอล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ ต่อมาได้ทำการจัดหา
ของต่าง ๆ ให้กับแผนกฯ ดังนี้
1. ซื้อไฟ PAR 64 บริจาคให้ Service จำนวน 20 ดวง (ดำเนินการ ปีการศึกษา
2539)
2. ซึ้อเครื่องมือ เช่น สว่าน, จิ๊กซอ ฯลฯ จำนวน 18,000.- เพื่อบริจาคให้แผนกฯ
โดยอยู่ที่ห้องสโตร์ และมีอาจารย์พงระภี ศรีสวัสดิ์
เป็นผู้ดูแล (ดำเนินการปีการศึกษา 2540)
3. บริจาคเงินเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์ ประมาณ 25,000.- บาท (ดำเนินการปีการศึกษา
2540)
พ.ศ. 2539 แผนกวิชาช่างอีเล็คโทรนิคส์ ได้เปลี่ยนใช้ชื่อเป็นทางการว่า
แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ และยังมีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรอีก คือ อาจารย์ชลอ
ปัญญาเกตุ ได้ลาออกจากราชการ (ก่อนเกษียณอายุราชการ) และ อาจารย์เพ็ญรุ่ง มงคลขจิต
ขอโอนย้ายไปรับราชการที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง
กลางภาคเรียนที่ 2 (ธันวาคม 2539) อาจารย์จเร สาธุเสน ได้ขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าแผนกฯ
(ก่อนครบวาระ 4 ปี) ดังนั้นทางวิทยาเขตฯ จึงได้กำหนดให้แผนกฯ มีการเลือกตั้งเพื่อสรรหาบุคคลมาทำหน้าที่หัวหน้าแผนกฯ
โดยวิทยาเขตฯ ได้แต่งตั้งให้ อาจารย์จิรพล วงศ์เมธานุเคราะห์ เป็นหัวหน้าแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์
(หัวหน้าแผนกฯ คนที่ 8)
EE #45 (ปวส. ปีที่ 1) รอบเช้า 2 ห้อง และ รอบบ่าย 2 ห้อง จำนวน
137 คน
EE #44 (ปวส. ปีที่ 2) สาขาสื่อสาร, คอมพิวเตอร์ และ อากาศยาน
จำนวน 134 คน
ค.อ.บ. รุ่น 2 (รหัส 39) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 2/2539 จำนวน
32 คน
ค.อ.บ. รุ่น 1 (รหัส 38) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 2/2538 จำนวน
30 คน
พ.ศ. 2540 ทางแผนกฯ ได้รับบุคลากรเพิ่มอีกจำนวน 3
ท่าน คือ อาจารย์ภัทร์ชนนท์ เกิดพิพัฒน์ (EE-38), อาจารย์สุทธี ทับทองดี (EE-42)
และ อาจารย์เพื่อชาติ สุขเรือน (มาช่วยราชการ 1 ภาคเรียน จาก วิทยาเขตสุพรรณบุรี)
นอกจากนี้ อาจารย์ปราโมทย์ อนันต์วราพงษ์ ได้รับทุนการศึกษาเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโท
ณ ประเทศอังกฤษ
ในปีการศึกษานี้ ภาคเรียนที่ 1 วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ ได้จัดงาน 45
ปี วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ ซึ่งทางแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ ก็ได้ร่วมจัดแสดงผลงานนักศึกษา,
ติดต่อบริษัทฯ ที่เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์-คอมพิวเตอร์ เพื่อมาแสดงในงานครั้งนี้
และก็เป็นช่วงที่เกิด วิกฤตเศรษฐกิจ เงินงบประมาณต่าง ๆ ถูกลดลงจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณด้านครุภัณฑ์
หรือ วัสดุฝึกเพื่อใช้ในการเรียน-การสอน และ ตามที่วางแผนในการจัดงานราตรีของแผนกฯ
ปีการศึกษานี้จะต้องจัดงาน 45 ปี ราตรีม่วง-ขาว ก็ไม่สามารถดำเนินการจัดงานได้
ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ
EE #46 (ปวส. ปีที่ 1) รอบเช้า 2 ห้อง และ รอบบ่าย 2 ห้อง จำนวน
127 คน
EE #45 (ปวส. ปีที่ 2) สาขาสื่อสาร, ทั่วไป และ อากาศยาน จำนวน
136 คน
ค.อ.บ. รุ่น 3 (รหัส 40) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 2/2540 จำนวน
36 คน
ค.อ.บ. รุ่น 2 (รหัส 39) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 2/2539 จำนวน
32 คน
ค.อ.บ. รุ่น 1 (รหัส 38) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 2/2538 จำนวน
30 คน
พ.ศ. 2541 อาจารย์รังสรรค์ วิจิตรกาญจน์
ได้ขอลาศึกษาต่อ ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ
และต่อมาได้ขอลาออกจากราชการ เพื่อประกอบธุรกิจส่วนตัว ส่วนอาจารย์ปราโมทย์
อนันต์วราพงษ์ ได้เดินทางกลับจากการศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ
พร้อมกับวุฒิ Pg.D. Telecommunication and Information Systems
และในปีนี้ทางแผนกฯ ยังได้รับอาจารย์ใหม่ เพิ่มอีก 2 ท่าน คือ
อาจารย์เสาวลักษณ์ แสงแก (EE-43) และ อาจารย์พีรวัฒน์ สุภอมรพันธ์
(EE-42) ซึ่งขณะเดียวกัน อาจารย์สุธี ทับทองดี ได้ลาศึกษาต่อในเวลาราชการ
ระดับปริญญาโท ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ส่วนอาจารย์นิพนธ์ ทางทอง ลาศึกษาต่อนอกเวลาราชการ ระดับปริญญาโท
ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ และ อาจารย์อนุสรณ์
สาธุเสน ลาศึกษาต่อนอกเวลาราชการ ระดับปริญญาตรี ณ สถาบันราชภัฏจันทรเกษม
ในปีการศึกษานี้ วิทยาเขตฯ ได้งบประมาณ น้อยลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง
ซึ่งส่งผลกระทบให้ ต้องรับนักศึกษาภาคนอกเวลาราชการ (รอบบ่าย) จากเดิมเคยรับ 2 ห้อง
ต้องรับเพียง 1 ห้องเรียนเท่านั้น รวมทั้งไม่ให้เปิดรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาอิเล็กทรอนิกส์
- โทรคมนาคม รุ่นที่ 4 อีกด้วย นอกจากนี้ ทางแผนกฯ ยังได้รับงบประมาณจาก ธนาคารโลก
(World Bank) ในการปรับปรุงดาดฟ้าตึก 16/2 เป็นห้องเรียนอีกจำนวน 5 ห้อง พร้อมด้วยครุภัณฑ์สำนักงาน
เช่น ตู้, โต๊ะ, เก้าอี้ เป็นต้น ซึ่งปีการศึกษานี้ ทางวิทยาเขตฯ มุ่งพัฒนา 5 ส.
(สะสาง, สะดวก, สะอาด, สุขลักษณะ และ สร้างนิสัย) เพื่อพัฒนาไปสู่ ISO 9000 เพื่อประกันคุณภาพการศึกษา
และ ทางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เตรียมที่จะออกนอกระบบราชการ
วันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2542 คณะกรรมการนักศึกษา ได้ร่วมกันจัดงาน อีเล็คโทรนิคส์
46 ปี น้อง-พี่ สัมพันธ์ ณ โรงแรมอินทรา ห้องมรกต โดยภายในงานได้มีศิษย์เก่าร่วมบริจาคสมทบกองทุน อาจารย์สวัสดิ์
หงษ์พร้อมญาติ เป็นจำนวน 10,000.- บาท (เดิมกองทุน มียอดเงิน 150,000.-
บาท ดังนั้น กองทุน อาจารย์สวัสดิ์ หงษ์พร้อมญาติ จึงมียอดเงินรวมทั้งสิ้น 160,000.-
บาท) และมีรายได้จากการจัดงาน ประมาณ 80,000.- บาท โดยนำมาจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์
และ เครื่องพิมพ์ เพื่อใช้ในกิจกรรมนักศึกษาต่อไป
EE #47 (ปวส. ปีที่ 1) รอบเช้า 2 ห้อง และ รอบบ่าย 1 ห้อง จำนวน
100 คน
EE #46 (ปวส. ปีที่ 2) สาขาสื่อสาร, ทั่วไป และ อากาศยาน จำนวน
126 คน
ค.อ.บ. รุ่น 3 (รหัส 40) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 2/2540 จำนวน
36 คน
ค.อ.บ. รุ่น 2 (รหัส 39) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 2/2539 จำนวน
32 คน
พ.ศ. 2542 อาจารย์เจริญ จั่นสกุล หัวหน้าคณะวิชาช่างไฟฟ้า
ได้รับตำแหน่ง รักษาการหัวหน้าแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ (แทน อาจารย์จิรพล วงศ์เมธานุเคราะห์)
และในช่วงต้นปีการศึกษานี้ มีอาจารย์ 4 ท่าน เตรียมตัวเดินทางไปดูงานโดยงบประมาณของธนาคารโลก
จำนวน 4 คน คือ อาจารย์จิรพล วงศ์เมธานุเคราะห์, อาจารย์ฉลองชัย จำเนียรศรี , อาจารย์นิพนธ์
ทางทอง และ อาจารย์ภัทร์ชนนท์ เกิดพิพัฒน์ ส่วนอาจารย์พงระภี ศรีสวัสดิ์ ได้ลาศึกษาต่อนอกเวลาราชการ
ระดับปริญญาโท ณ สถาบันราชภัฏพระนคร และ อาจารย์อนันต์ โสภิณ ลาศึกษาต่อในเวลาราชการ
ระดับปริญญาตรี ณ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล (คลองหก)
ตึก 16/2 ได้รับการทาสีตึกใหม่ และ ชั้น 4 ได้รับการต่อเติมเป็นห้อง
LAB โดยงบประมาณของธนาคารโลก เครื่องมือ - อุปกรณ์สนับสนุนการเรียน-การสอน เริ่มใช้งาน
EE #48 (ปวส. ปีที่ 1) รอบเช้า 2 ห้อง และ รอบบ่าย 1 ห้อง จำนวน
100 คน
EE #47 (ปวส. ปีที่ 2) รอบเช้า 2 ห้อง และ รอบบ่าย 1 ห้อง จำนวน
96 คน
ค.อ.บ. รุ่น 3 (รหัส 40) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 2/2540 จำนวน
36 คน
พ.ศ. 2543 อาจารย์เจริญ จั่นสกุล ยังรักษาการตำแหน่งหัวหน้าแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ อาจารย์พีรวัฒน์ สุภอมรพันธุ์ และ อาจารย์เสาวลักษณ์ แสงแก ได้ลาศึกษาต่อ
ภาคในเวลาราชการ ณ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ส่วนอาจารย์ทั้ง 4 ท่านที่เดินทางไปศึกษาดูงาน
ณ ประเทศเยอรมัน เดินทางกลับ และได้เริ่มสอนในภาคเรียนที่ 1/2543 และในปลายภาคเรียนที่
1/2543 อาจารย์พีรวัฒน์ สุภอมรพันธุ์ ได้ขอกลับมารับราชการ เหมือนเดิม (มีปัญหาด้านการเรียน)
โดยในปีการศึกษานี้ ตึก 10 ชั้น ของคณะวิชาช่างไฟฟ้า ได้เริ่มจัดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ได้จาก
โครงการเงินกู้ธนาคารโลก ลงตามห้องต่าง ๆ แล้ว คาดว่า ภาคเรียนที่ 2/2543 จะเริ่มใช้งานในการเรียนการสอน
EE #49 (ปวส. ปีที่ 1) รอบเช้า 1 ห้อง จำนวน 36 คน
EE #48 (ปวส. ปีที่ 2) สาขาสื่อสาร และ อากาศยาน (เช้า 2,บ่าย
1) จำนวน 82 คน
อส.บ. รุ่น 1 เช้า (รหัส 43) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 1/2543 จำนวน
30 คน
อส.บ. รุ่น 1 สมทบ (รหัส 43) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 1/2543 จำนวน
30 คน
ค.อ.บ. รุ่น 5 สมทบ (รหัส 43) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 1/2543
จำนวน 16 คน
ค.อ.บ. รุ่น 4 สมทบ (รหัส 42) เริ่มเรียน ภาคเรียนที่ 2/2539
จำนวน 16 คน
|
|
|
|